แชร์ลูกโซ่ต่างจากธุรกิจขายตรง ต่างจากธุรกิจเครือข่ายอย่างไร 2

ในขณะที่ธุรกิจเครือข่าย (MLM) นั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง…

00110

MLM คืออะไร ? / MLM ให้อะไร ? / MLM เหมาะกับใคร ? / ทำไมต้อง MLM ?

MLM ย่อมาจาก Multi Level Marketing (ระบบการตลาดซ้อนหลายชั้น หรือเรียกสั้นๆ ในบ้านเราว่าธุรกิจเครือข่าย)MLM คือ ระบบ การวางแผนการตลาด การค้ารูปแบบหนึ่ง ซึ่งส่วนมากมองข้ามไปเป็นวิวัฒนาการของการคิด การค้า แบบให้ผลตอบแทนหลายชั้น หลายระดับ คอนเซปง่ายๆ คือใช้ดีแล้วบอกต่อ (เหมือนคุณไปดูหนัง 1 เรื่อง หนังสนุกจึงไปแนะนำให้เพื่อนดู …โรงหนังไม่ได้ให้ค่าตอบแทนคุณ แต่ธุรกิจเครือข่ายให้ค่าตอบแทนที่คุณช่วยแนะนำ) ทั่วไปมักมองว่าเป็นลูกโซ่ หรือปิรามิด ถ้าลองศึกษาลงไปจะเห็นว่าเป็นระบบที่ดี ตัวอย่างการมอง อยู่ว่าเรามองอย่างไรหลายคนมองว่า คนมาก่อนได้เปรียบ คนอยู่บนเอาเปรียบ ท่านลองมองระบบงานปัจจุบันคะ

งานราชการ เป็นปิรามิดที่ชัดเจนที่สุด คือ มี ระดับชั้น ของ ข้าราชการ เช่นมี ซี 1,2,3,4….. อย่างนี้เป็นปิรามิดไหมคะ มี C1 จำนวนมาก C2 ก็มีน้อยลง จนถึง C11 มีกี่คน
บริษัททั่วไป ถ้าเราเข้าไปเช่น เริ่มจาก พนักงานขาย การจะได้เป็น รองหัวหน้าหน่วย ต้องใช้เวลา และมีรองหัวหน้าหน่วยกี่คน หัวหน้าหน่วยล่ะ อาจมี ซุปเปอร์ไวเซอร์ แล้วมีได้กี่คน และต้องการเป็นผู้จัดการล่ะ มีได้กี่คน
แต่ธุรกิจเครือข่ายนั้น ถึงจะมาทีหลังทำมากกว่า ขยันมากกว่าก็สามารถแซงรายได้คนมาก่อนได้ นี่แค่เขียนถึงระบบโดยกว้างๆนะคะ ถ้าเจาะลึกลงไป ยังมีสิ่งที่เราอาจขำไม่ออก เช่น วันนี้เราได้งานเป็น พนักงานขายพร้อมด้วยเพื่อนรักเราคนหนึ่งที่พร้อมตายแทนเราได้ ผ่านไป 5 ปี เราและเพื่อนต่างขยันขันแข็งทำงานได้ดีมาก บริษัทเปิดโอกาส ให้เราเลื่อนตำแหน่ง เป็นผู้จัดการ แต่ผู้จัดการมีได้กี่คนคะ ส่วนมากหนึ่งเดียว

ท่านคิดอย่างไร
–> ให้เพื่อนเป็นไปก่อน แต่ผลงานเราดีกว่าเพื่อนอยู่นิดหน่อย
–> เราเป็นเองดีกว่า (แล้วเพื่อนท่านล่ะคิดอย่างไร)
อย่า เพิ่งดีใจ ปรากฎว่า หลายชายเจ้าของ จบโท มาจากเมืองนอกทางด้านการตลาด ได้เป็นผู้จัดการ ในขณะที่คนทุ่มเททำงานมาแทบตาย 5 ปียังอยู่ที่เดิม และคุณเคยเจอเหตุการณ์อย่างนี้ด้วยตัวเองหรือเพื่อนเล่าให้ฟังบ้างไหม? (คำตอบ คือ…………..) นี่แค่ตัวอย่างเดียวเท่านั้นครับ

MLM ให้อะไร ใช่เรื่องแรกต้องควรรู้ก่อนว่าให้อะไร ใช่ไหมครับจะได้ใช้เป็นส่วนประกอบในการตัดสินใจ จากการศึกษาถึงระบบ MLM สิ่งได้พบจุดเด่น ของระบบนี้ คือ

ความเท่าเทียม หรือ โอกาสในการสร้างธรุกิจ(รายได้) ไม่ว่าคุณจะจบอะไรมาก็ตาม
ไม่จำกัดรายได้ ทำงานมากได้รายได้มาก ทำงานน้อยได้รายได้น้อย ไม่ทำก็ไม่ได้ มาก่อนมาหลังจึงไม่สำคัญ
ไม่จำกัดเวลาทำงาน จะตื่นมาทำงานกี่โมงนั่นแล้วแต่วินัยของตัวคุณเอง อาจจะตื่นบ่ายโมงทำงานถึงเที่ยงคืนคุณก็กำหนดเอาเอง
เป็นมรดกตกทอดสู่ลูกหลาน ข้อนี้สำคัญที่สุด

ข้อเสีย คนไม่เข้าใจแล้วนำไปคิดเองโดยไม่ศึกษา และนำไปถ่ายทอดแบบไม่ถูกต้อง

MLM เหมาะกับใคร? เรื่องนี้บอกได้อย่างเดียวว่า เหมาะ สำหรับใครก็ตามที่ต้องการสร้างธุรกิจ เพราะ MLM คือการสร้างเครือข่ายผู้บริโภค ใครสร้างได้มากย่อมมีรายได้มาก ในความเห็นส่วนตัว ผมว่าน่าที่จะสร้าง ธรุกิจ MLM ไว้สำรองรายได้ ถึงท่านจะทำอะไรอยู่ก็ตาม เพราะ MLM ไม่มีต้นทุนเพิ่ม มีแต่ รายได้เพิ่ม (ถ้าคุณทำ)
และจากทั้งหมดนี้ ท่านว่าทำไมต้อง MLM พอจะได้คำตอบไหม?

ผมขอสรุปให้ทุกท่านได้เข้าใจง่ายขึ้นดังนี้
ธุรกิจเครือข่ายที่ดี : เจตนาในการนำเสนอสินค้าเป็นหลัก ค่าธรรมเนียมในการรับสมัครสมเหตุสมผล คนทุกระดับสามารถสมัครได้ ไม่ต้องลงทุนสูง เป็น สินค้า ใช้แล้วหมดไป คุณภาพดี ราคายุติธรรม ถ้าผู้บริโภคทดลองใช้แล้วชอบจึงเกิดการซื้อซ้ำ โดยจะไม่มีการบังคับซื้อ และมีการรับผิดชอบผู้บริโภคเมื่อสินค้ามีปัญหา แผน การตลาดไม่ยากเกินไป สามารถเป็นไปได้จริง ผลตอบแทนยุติธรรม รายได้มาจากการทำงาน การขึ้นตำแหน่งเกิดจากการขยายทีมงาน การใช้สินค้าดีแล้วบอกต่อ ไม่มีการบังคับรักษายอด ตำแหน่งต่าง ๆ ขึ้นแล้วไม่มีการตกหรือปลด และสามารถแซงกันได้ จึงไม่มีใครได้เปรียบ เสียเปรียบในคนที่สมัครทีหลัง หรือสมัครก่อน จ่าย ผลประโยชน์ตามการทำงานจริง ใครทำงานมาก ก็ได้มาก คนที่สมัครก่อนแต่ทำงานน้อย ก็จะได้ผลประโยชน์น้อยกว่าคนที่สมัครทีหลัง แต่ทำงานมาก แต่ไม่มีใครที่ทำงานแล้ว ไม่ได้ผลประโยชน์อะไรเลยจากบริษัท มีการจ่ายผลประโยชน์ที่ชัดเจนและมั่นคง มีหลักฐานการจ่ายเงิน และเสียภาษีอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

แชร์ลูกโซ่ : เจตนาเน้นให้คนนำเงินมาลงทุน ค่าสมัครแพง หรือบางบริษัทไม่ต้องเสียค่าสมัคร แต่จะบังคับให้ซื้อสินค้าก่อนในครั้งแรกทีละมาก ๆ และ สินค้ามักมีราคาแพง ไม่สนใจประโยชน์ต่อผู้บริโภค เป็นสินค้าราคาแพงกว่าท้องตลาด อวดอ้างสรรพคุณเกินจริง มักเป็นสินค้าที่ใหญ่ อายุการใช้งานนาน ไม่มีความต้องการซื้อซ้ำ และไม่รับผิดชอบผู้บริโภค เมื่อ เกิดปัญหา ในบางบริษัทมีสินค้าเพื่อเพียงการบังหน้า เพื่อการฉ้อโกงเท่านั้นแผนการตลาดให้ผลประโยชน์มากผิดปกติ เพื่อเป็นการดึงดูดสมาชิก มีแผนการตลาดแบบเงินต่อเงินหรือระดมทุน ไม่สนใจรายได้ที่เกิดจากการสั่งซื้อซ้ำ เน้นให้หาคนใหม่มาเรื่อยๆ เมื่อทำไปแล้ว ยอดขายไม่ถึงเป้าก็อาจจะไม่ได้รับผลประโยชน์ใดๆ เลย และมีการบังคับรักษายอดด้วยวงเงินสูงๆ ถ้ารักษายอดไม่ได้ ตำแหน่งจะถูกปลดต้องเริ่มทำใหม่ผลประโยชน์จะมากในช่วงแรกๆ เท่านั้น เพราะจะได้รับเปอร์เซ็นต์ส่วนแบ่งจากค่าสมัครใหม่ และเปอร์เซ็นต์จากการซื้อสินค้าที่มีราคาแพง แต่ถ้าชวนคนสมัครไม่ได้ หรือสมัครแต่ไม่ซื้อสินค้า รายได้จะลดลงอย่างรวดเร็ว คนมาทีหลังมักจะเสียเปรียบ เพราะตนเองลงทุนไปแล้ว ก็ต้องพยายามเอาเงินคืนมาให้ได้ บริษัทมักจะปิดกิจการหนีในที่สุด เพราะเน้นการเอาเงินก้อนมาลงทุน สินค้าที่ขายเป็นเพียงฉากบังหน้าเท่านั้น ไม่ได้เน้นคุณภาพสินค้า ไม่มีหลักฐานการจ่ายเงิน และไม่มีระบบการเสียภาษีที่ชัดเจน

คนจนมองหางานทำ แต่คนรวยมองหาโอกาสสร้างเครือข่าย มองหาโอกาสเป็นเจ้าของเครือข่าย

ข้อ แตกต่างระหว่าง แชร์ลูกโซ่กับธุรกิจเครือข่าย หรือ MLM,แชร์ลูกโซ่ต่างจากธุรกิจเครือข่ายอย่างไร,แชร์ลูกโซ่ต่างจากธุรกิจเครือ ข่ายอย่างไร,แชร์ลูกโซ่ต่างจากธุรกิจเครือข่ายอย่างไร

อยากรวยด้วยกันคลิกเลย

Posted in MLM ธุรกิจเงิน แสน | Tagged , , , , , , , , , , | Leave a comment

แชร์ลูกโซ่ต่างจากธุรกิจขายตรง ต่างจากธุรกิจเครือข่ายอย่างไร 1

เคลียร์ปัญหาคาใจ ธุรกิจเครือข่าย ขายตรง แชร์ลูกโซ่ ต่างกันอย่างไร ?…

00110จริงๆ แล้วในประเทศไทยเป็นเรื่องน่าเสียดายที่ทำให้ธุรกิจดีๆ ต้องมาถูกเข้าใจผิดเพราะข่าวแย่ๆ ของแชร์ลูกโซ่เมื่อหลายปีก่อน อย่างที่รู้ๆ กันว่าบ้านเราข่าวร้ายๆ ขายได้และโด่งดังแต่ข่าวดีๆ ไม่ค่อยนำมาประกาศกัน ที่น่าเสียดายมากเพราะว่าอุตสาหกรรมเครือข่ายหรือ MLM นั้นมียอดขายมหาศาลในอเมริกา, ญี่ปุ่น และประเทศที่พัฒนาแล้วอีกหลายประเทศทั่วโลก ยิ่งถ้าบริษัทสามารถทำ Seamless Worldwide Link ได้ คุณก็สามารถนำเงินจากประเทศอื่นๆ เข้ามาเป็นรายได้ของประเทศไทยได้อีกด้วย แต่อุตสาหกรรมดีๆ อย่างนี้กลับต้องมาตายในเมืองไทย เพราะว่าความเข้าใจผิดๆ ของคนไทยเรานี่เอง นอกจากนั้นซ้ำร้ายเข้าไปอีกทางกฎหมายบ้านเรายังจัดให้จดทะเบียนเป็น ธุรกิจ”ขายตรง” เหมือนกันทั้งธุรกิจที่ขายตรงจริงๆ และธุรกิจเครือข่าย(MLM) จึงทำให้คนได้ยินชื่อก็ขยาดแล้ว…เพราะว่าคนไทยไม่ค่อยมีใครชอบขายของ พอคิดถึงคำว่าขายตรง ก็คงต้องไปเดินขายของตามบ้านแน่ๆ ส่วนแชร์ลูกโซ่นั้นไม่สามารถจดทะเบียนได้ เพราะว่าผิดกฎหมายแน่นอน! แล้วความแตกต่างอยู่ตรงไหนล่ะ? ดิฉันจึงต้องขอชี้แจงแถลงไข ให้กับผู้ที่ยังไม่ทราบถึงความแตกต่างของทั้งสามธุรกิจด้วยความจริงให้ ชัดเจน!

ธุรกิจขายตรง (Direct Sale) คืออะไร…?
ธุรกิจขายตรงต้องถือว่าเป็นปฐมบทหรือต้นกำเนิดของทั้ง 3 ธุรกิจนี้ทีเดียว วีธีสังเกตธุรกิจ ขายตรงง่ายๆ ก็คือ ดูที่รายได้หลักของบริษัท จะได้มาจากการเน้นขายเกิน 90% นั่นเอง รวมไปถึงรายได้หลักของสมาชิกที่ทำธุรกิจนี้ก็ได้มาจากเปอร์เซ็นต์จากการขาย เช่นกัน ดังนั้นคนที่จะทำธุรกิจนี้ ต้องเป็นนักขายมือทองทีเดียวจึงจะประสบความสำเร็จได้ รวมไปถึงสินค้าและบริการที่นำมาจำหน่ายก็ต้องมีความแตกต่างจากสินค้าที่วาง ขายตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป หรือต้องมีจุดขาย ยกตัวอย่างเช่น ธุรกิจประกันชีวิต ธุรกิจที่ลงโฆษณาขายสินค้าในโทรทัศน์และเดินตลาดตามบ้าน แต่สุดยอดขายตรงเมืองไทยดิฉันขอยกให้ “อย่าลืมถามสาวยาคูลสิคะ”

แชร์ลูกโซ่ (Money Game) คืออะไร…?
แชร์ลูกโซ่ หมายถึง รูปแบบการดำเนินธุรกรรมที่มุ่งประสงค์เพื่อหารายได้จาก การระดมทุนเป็นหลัก โดยมีการสัญญาในการเข้าร่วมธุรกิจที่จะตอบแทนผลประโยชน์ในรูปแบบต่าง ๆ ที่สูงกว่าเงินลงทุน ซึ่งผู้ประกอบการมักจะอ้างถึงการนำเงินไปลงทุนใน รูปแบบอื่น ๆ ต่อ ๆ ไป เพื่อปันรายได้แจกจ่ายผู้เข้าร่วมธุรกิจอย่างทั่วถึง แต่ผลของมัน คือ การที่ตอบแทนผลประโยชน์ในช่วงต้น ๆ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการร่วมธุรกิจต่อเนื่องจนเมื่อถึงจุดที่ผู้ประกอบการ หวังผลในการระดมทุนสำเร็จแล้ว ก็จะหาทางปิดตัวไปเพื่อหลีกเลี่ยงการ จ่ายผลประโยชน์ต่อ ๆ ไป หรืออาจจะดำเนินการต่อเนื่องจนกว่าฐานที่เข้ามาหรือผู้เข้าร่วมธุรกิจที่ เข้ามาในช่วงหลังจะไม่สามารถหมุนเวียนเงินตอบแทนได้กับคนที่มาก่อนได้ ก็จะเริ่มปิดตัวลง

ลักษณะและวิธีการดำเนินงานการหาสมาชิก และการจ่ายผลประโยชน์ส่วนใหญ่วิธีการดำเนินงานของแชร์ลูกโซ่จะเริ่มจากวงแคบ ๆ จากเพื่อนคนใกล้ชิดแล้วค่อย ๆ ขยายตัวไปรอบนอก จนถึงขั้นควบคุมไม่ได้ เพราะจะเริ่มออกสู่วงกว้างขึ้นเรื่อย ๆ การหาสมาชิกก็จะใช้วิธีสร้างภาพลวง หว่านล้อมให้เกิดความเชื่อและการจ่ายผลประโยชน์กับสมาชิกระดับต้น ๆ หรือใกล้ชิดเป็นส่วนใหญ่ เพื่อโฆษณาชวนเชื่อ อีกข้อหนึ่ง คือ สมาชิกเหล่านี้ส่วนใหญ่มักเป็นคนสนิทของกลุ่มผู้ก่อตั้งแชร์ลูกโซ่อยู่แล้ว ย่อมมีผลประโยชน์คาบเกี่ยวกันมากมาย ดังนั้น จึงสามารถที่จะสร้างภาพลวงร่วมกันได้ สุดท้ายเมื่อได้ระดมทุนตามประสงค์แล้วก็จะปิดตัวลง ซึ่งสมาชิกระดับใกล้ชิดก็จะไม่เสียประโยชน์ใด ๆ ส่วนแมลงเม่าที่บินมาภายหลังส่วนใหญ่จะเป็นผู้เสียหาย และตามตัวผู้รับผิดชอบไม่ได้ เพราะหายเข้ากลีบเมฆไปแล้ว ครั้นจะมาหาข้อมูลจากสมาชิกระดับผู้นำก็เปล่าประโยชน์ เพราะได้ปิดปากตัวเองแล้วจากผลประโยชน์ที่คาบเกี่ยวกันกับเจ้าของแชร์ลูกโซ่ดังนั้นแชร์ลูกโซ่จึงทำให้คนที่มาก่อนได้เปรียบอยู่เสมอแม้จะนอนอยู่ที่บ้านไม่ทำงาน

 สารบัญเว็บไซต์ http://webindex.onlineoops.com/

อยากรวยด้วยกันคลิกเลย

Posted in MLM ธุรกิจเงิน แสน | Tagged , , , , , , , , , , , , , | Leave a comment

Why Aim star network ทำไมจึงต้อง เอมสตาร์

Why Aim star network ทำไมจึงต้อง เอมสตาร์

ทุกท่านทราบหรือไม่ว่า ธุรกิจเครือข่ายนั้น ได้กลายเป็น “นวัตกรรมการตลาดแห่งอนาคต”

ผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจเปลี่ยนแปลงไป ทำให้คนต้องการเป็นเจ้าของธุรกิจกันมากขึ้น
ผู้ คนต้องการเปลี่ยนจาก Salesmanship สู่ Entrepreneurship ธุรกิจเครือข่ายเป็นช่องทางที่ง่ายและลงทุนน้อยที่สุด ในการก้าวไปสู่การเป็นเจ้าของธุรกิจ ประกอบกับรูปแบบของธุรกิจเครือข่ายตรงสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ใน ยุคนี้ที่เปลี่ยนไป พวกเขาต้องการเวลาและแผนการเงินที่อิสระ การหลุดจากกรอบการทำงานแบบออฟฟิต มาเป็นเจ้าของธุรกิจ ที่ไม่ต้องเสี่ยงลงทุนผลิตสินค้าเอง เป็นสิ่งที่ตอบโจทย์คนกลุ่มนี้ครับ เราจึงเป็นได้ว่า นักธุรกิจอิสระ ทุกวันนี้ไม่ใช่กลุ่มแม่บ้านที่ว่างงานดังเช่นเมื่อหลายสิบปีก่อน แต่เป็นคนรุ่นใหม่ที่ก้าวเข้ามาทำอย่างจริงจังเสียมากกว่า

รายได้ที่เกิดจากการทำธุรกิจเครือข่าย สามารถเป็นมรดกให้แก่ลูกหลาน หรือเป็นเงินสะสมเอาไว้ใช้หลังเกษียณ

“สิ่ง ที่คุณทุ่มเททำมาจะเป็นธุรกิจของของคุณ สร้างเงินออมให้ครอบครัว และเป็นมรดกของลูกคุณอีกด้วย” โดยเครือข่ายและรายได้ทั้งหมดจะยังคงอยู่ตลอดไป
อยากรวยอยากหลุดจากคำว่า"ลูกจ้าง" ต้องมีธุรกิจเป็นของตัวเอง
“ธุรกิจเครือข่ายจะอยู่ไปได้เรื่อยๆและจะไม่ล้มหายตายจากไปเหมือนบางธุรกิจ”

ด้วย เหตุผลที่ผมกล่าวมา บวกรวมกับผู้ประกอบการได้พัฒนาการดำเนินรูปแบบ การดำเนินธุรกิจอยู่เสมอ ให้ความสำคัญกับการดูแลผู้บริโภค ควบคู่ไปกับการดูแลนักธุรกิจของตน ตลอดจนกล้าที่จะฉีกตำราทางการตลาด ผสมผสานรูปแบบการตลาดใหม่ๆ เพื่อให้นักธุรกิจเครือข่ายเข้าถึงผู้บริโภคได้ง่าย รวดเร็ว สร้างภาพลักษณ์อันดี และสร้างการรับรู้ในตราสินค้าอย่างต่อเนื่อง ปรากฏการณ์แบบนี้ ถือเป็นสัญญาณบวกอย่างดีทีเดียวสำหรับทุกท่านทีี่่คิดจะสร้างความมั่นคงใน ชีวิตให้กับตนเองด้วยธุรกิจเครือข่าย

Why Aimstar network ทำไม ผมจึงเลือก เอมสตาร์ เน็ทเวิร์ค เพื่อสร้างความมั่นคงในชีวิตให้กับตนเองและครอบครัว

ผมมีหลักเกณฑ์ ในการเลือก ธุรกิจเครือข่ายที่ดี ดังนี้ ครับ
1. เจตนาในการนำเสนอสินค้าเป็นหลัก ไม่ใช่ เจตนาให้คนนำเงินมาลงทุน
2. ค่าธรรมเนียมในการสมัครสมเหตุสมผล คนทุกระดับสามารถสมัครได้ ไม่ต้่องลงทุนสูง และต้องไม่มีการบังคับให้ซื้อสินค้าก่อนในครั้งแรกทีละมากๆเกินจริง
3. เป็นสินค้าสิ้นเปลือง คือใช้แล้วหมดไปคุณภาพดี ราคายุติธรรรม ถ้าผู้บริโภคทดลองใช้แล้วชอบ จึงเกิดการใช้ซ้ำ โดยไม่มีการบังคับซื้อและมีการรับผิดชอบต่อผู้บริโภคเมื่อสินค้ามีปัญหา ไม่ใช่สินค้าราคาแพงกว่าท้องตลาด อวดอ้างสรรพคุณเกินจริง หรือ เป็น บ.ที่มีสินค้าเพื่อเพียงการบังหน้าเพื่อฉ้อโกงเท่านั้น
4. แผนการตลาดไม่ยากเกินไป สามารถเป็นจริงได้ ผลตอบแทนยุติธรรม รายได้มาจากการทำงาน การขึ้นตำแหน่งเกิดจากการขยายทีมงาน การใช้สินค้าดีแล้วบอกต่อ ไม่มีการบังคับรักษายอด ตำแหน่งต่างๆสามารถแซงกันได้จึงไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบในคนที่สมัครที หลัง หรือสมัครก่อน ไม่ใช่ เน้นหาคนใหม่ไปเรื่อยๆ เมื่อทำไปแล้วยอดขายไม่ถึงเป้า ก็อาจจะไม่ได้รับผลประโยชน์ใดๆเลย หรือบังคับการรักษายอดด้วยวงเงินสูงๆ ถ้ารักษายอดไม่ได้แล้วตำแหน่งถูกปลด ต้องเริ่มใหม่
5. จ่ายผลตอบแทนตามการทำงานจริง ใครทำงานมากก็ได้มาก คนที่สมัครก่อนแต่ทำงานน้อยก็จะได้ผลตอบแทนน้อยกว่าคนที่สมัครหลังแต่ทำงาน มาก แต่ไม่มีใครที่ทำงานแล้วไม่ได้ผลประโยชน์อะไรเลยจากบริษัท มีการจ่ายผลประโยชน์ที่มั่นคงและชัดเจน มีหลักฐานการจ่ายเงินและเสียภาษีอย่างถูกต้องตามกฏหมาย
และ เนื่องจากผม เป็นอดีตนักการตลาดมาก่อน จึงขอ อธิบายวงจร ของธุรกิจ ให้เป็นความรู้เพิ่มเติม เอาแบบเข้าใจง่ายๆเลยนะครับ
วงจรชีวิตของการ ทุกสินค้า หรือทุกธุรกิจ แบ่งออกเป็น ช่วงต่างๆ ดังนี้

1.ช่วงบุกเบิก ก็คือ ช่วงของการเข้าสู่วงการ เข้าสู่ตลาด
ขอ ยกตัวอย่างธุรกิจเครือข่าย จะได้เห็นชัดเจนขึ้น ในปีแรก มีคนที่สนใจธุรกิจเครือข่าย หรือ พ่อทีมแม่ทีมค่ายอื่น อาจจะวิ่งเข้าไปเพื่อเป็นต้นสายติด บริษัท ระยะนี้ จะมีคนล้มเลิก มากกว่าคนที่พร้อมจะลุยต่อไปกับบริษัท อาจจะเหนื่อยเพราะต้องเปิดตลาด ให้สินค้าเป้นที่ยอมรับ ต้องรอคอย ผลการบริโภคสินค้า แล้วเห็นผล เพื่อผู้บริโภคจะทำการบอกต่อถึงสรรพคุณที่ประทับใจ
และถิอเป็นช่วงที่ คาบลูกคาบดอก เพราะคนที่ล้มเลิกไปก่อน ก็ จะบอกว่า บ.นี้ไม่ดี ทำแล้วไม่สำเร็จ (จริงๆ น่าจะเป็นจากตัวเค้าเองมากกว่า อันนี้เห็นบ่อย) ทำให้คนที่ต้องการเข้ามาศึกษาธุรกิจ มีความกลัว ไม่กล้าเข้ามาร่วมงาน หรือบางคนก็จะ ทำการสังเกตการณ์ไปกอ่น ถ้าไปรอด แนวโน้มดี จึงจะเข้าร่วม

2.ช่วงเติบโต เป็นช่วงที่ ธุรกิจนั้นๆ เป็นที่รู้จักมากขึ้น การเติบโตดีมาก มีตัวอย่างความสำเร็จของนักธุรกิจเครือข่ายให้เห็น สินค้าเป้นที่รู้จักและเป้นที่ยอมรับในคุณภาพ และผลลัพท์ที่ใช้
คน กว่าครึ่งที่เลิกล้มไป อาจจะกลับเข้ามาใหม่ ผู้ที่เคยสังเกตการณ์ในช่วงแรก จะเข้ามาร่วมธุรกิจ รวมถึงคลื่นลูกใหม่ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงการทำงานให้อิสระมากขึ้น จะเข้ามาศึกษาธุรกิจกัน เรียกง่ายๆว่า โตวันโตคืนเลยก็ว่าได้

3.ช่วงพัฒนาธุรกิจ ในช่วงนี้ เหมารวมไปถึงการขยายสาขาไปต่างประเทศ การขยาการลงทุนในการก่อสร้าง โรงงานการผลิต หรือ ออกสินค้า นวัตกรรมใหม่ ซึ่งในหัวข้อนี้ อาจจะทำได้เรื่อยๆ เป็นช่วงที่มีความสำคัญมาก เพราะเป็นการแสดงศักยภาพของ บ. และทิศทางของการเติบโต ความมั่นคงของนักธุรกิจเครือข่ายนั้นๆ ให้ขยายองค์กร และเติบโตได้เร็วขึ้น และ บ. แสดงศักยภาพในด้านการค้นคว้าเทคโนโลยี และการประกาศตัวในความเป็นมืออาชีพที่พร้อมจะพัฒนาไปอย่างไม่หยุดนิ่ง ช่วงนี้ คนจะหลั่งไหลเข้ามามากกว่าช่วงเติบโต เสียอีก และถ้ารักษาความเป็นเลิศไว้ได้ แน่นอน ไม่มีวันไปสู่ช่วงที่ 4 แน่นอน

4.ช่วงตกต่ำ หากธุรกิจใด ไม่มี ช่วงพัฒนาธุรกิจแล้วล่ะก็ แน่นอน วงจรชีวิตคงกระโดดข้ามมาสู่ ช่วงตกต่ำเลยทันที สมาชิกก็หาย บ.อาจจะไม่ปิด แต่คงต้องกลับไปวางแผน ปรับกลยุทธ์ กันใหม่เพื่อออกมาลุย อีกครั้ง

5.ยุคตายแล้วฟื้น ตายแล้วเกิดใหม่
ตัวอย่าง เช่น บ.เครือข่าย บางแห่ง หลังจากกลับไปปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ บางที่ก็เปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนแผนการจ่าย แล้วออกมาทำตลาดใหม่อีกครั้ง โดยนำเสนอข้อดี ต่างนานา ก็ สามารถ พบเห็นได้ ในโดลกธุรกิจออนไลน์ ณ วันนี้ (แต่ผมไม่ขอเอยนาม ครับ)

คำถามคือ แล้ว เราควรจะเข้าร่วมกับ บ.เครือข่าย ใน ช่วงเวลาไหนจึงจะเหมาะสมที่สุด สำหรับอดีตนัการตลาดอย่างผม หลังจากที่เป็นนักสังเกตการณ์อยู่ 3 ปีกว่า กับ ธุรกิจเครือข่าย บ.เอมสตาร์ เน็ทเวิร์ค คงไม่มีเวลาไหนดีเท่ากับช่วงเวลานี้อีก แล้วครับ (ผมการันตี) เพราะต่อให้คุณอยู่ถูกที่ แต่ไม่ถูกเวลา คุณอาจจะต้องเหนื่อยหน่อย เหนื่อยหนัก และเหนื่อยนาน แทนที่จะเหนื่อยในเวลาเพียงสั้นๆแต่สบายไปตลอด คุณว่าจริงมั้ยล่ะครับ

ด้วย แผนการขยายสาขาในประเทศ และ ปีนี้ เอมสตาร์ เน็ทเวิร์ค วางแผนเปิดสาขาใหม่ในต่างประเทศ ประเทศสหรัฐอเมริกา และอินเดีย และการขยายกำลังการผลิต ก่อสร้างโรงงานเพื่อทำการผลิตเองด้วย และ สร้างสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ นี่ยังไม่รวมการ ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกมาทุกเดือน คงต้องยกนิ้วให้สำหรับความชัดเจน ในวิสัยทัศน์ของผู้บริหารจริงๆ เพราะสิ่งเหล่านี้ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของผู้นำ และเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยให้นักธุรกิจเครือข่ายเอมสตาร์ ขับเคลื่อนพลังเครือข่ายที่แท้จริงได้เต็มกำลัง

ถ้าวันนี้ คุณ กำลังมองหา บ.เครือข่ายที่คุณจะเข้าร่วมเพื่อสร้างรายได้และฝากอนาคตให้กับครอบครัว ลองเอาหลักเกณฑ์การพิจารณาดีๆ จาก ผมไปใช้นะครับ คำตอบของทุกท่านอาจเป็นคำตอบเดียว กับ ผมก็ได้ครับ

หลายท่านเคยได้ยิน ประโยคที่ว่า ถูกที่ ถูกเวลา แต่ไม่ถูกทีม เสียหายยับเยิน มั้ยครับ

แล้ว สิ่งสำคัญนอกจาก บ.เครือข่ายที่คุณจะเข้าร่วมแล้ว ยังมีอะไรที่จะเป็นสิ่งผลักดันคุณไปสู่ความสำเร็จอีกมั้ย แน่น่อนครับ ต้องมี ทีมงานที่จะช่วยดูแลคุณ ตลอดเส้นทางสู่ความสำเร็จ

สนใจที่จะร่วมงานกับทีมเรา

อยากรวยอยากหลุดจากคำว่า"ลูกจ้าง" ต้องมีธุรกิจเป็นของตัวเอง

Why Aim star network ทำไมจึงต้อง เอมสตาร์ Why Aim star network ทำไมจึงต้อง เอมสตาร์

สารบัญเว็บไซต์ http://webindex.onlineoops.com/ 

Posted in MLM ธุรกิจเงิน แสน | Tagged , , , | Leave a comment

ประสบการณนักธุรกิจเครือข่าย

เราทุกคน เริ่มธุรกิจเครือข่ายด้วยการ “ลิสต์รายชื่อคน รู้จัก” ใช่ไหมครับน่ันคือ เรากำหนดเป้าหมายไว้ที่การทำงานกับ “คนที่เรารู้จัก” เป็นอันดับแรกแต่เมื่อ เราเริ่มโทรชวนคนที่เรารู้จักเรากลับได้พบว่า.. พวกเราส่วนใหญ่”ชวนคนที่ตัวเองรู้จัก..ไม่ได้เลย”
แถมยังไม่พอ.. “โดนดูถูก” ..อีกด้วย
“เดี๋ยวนี้ มาทำงานประเภทนี้แล้วเหรอ เสียดายความรู้ที่เรียนมา ทำไมไม่ไปทำงานที่ตัวเองถนัดล่ะ”
“งานเครือข่ายอะไรก็ไม่รู้ ระวังโดนหลอกนะ เดี๋ยวนี้พวกต้มตุ๋นมีเยอะ””..ฯลฯ..”

Aimstar
..นี่ เป็นสิ่งที่ผมเจอเป็นประจำ สมัยที่พึ่งเริ่มทำธุรกิจเครือข่ายใหม่ๆ..ถึงแม้ว่า ผมจะสามารถชวนเพื่อนฝูงคนรู้จัก มาเป็นดาวน์ไลน์ได้บ้าง แต่ดาวน์ไลน์ของผมเหล่าน้ัน ก็ต้องพบเจอปัญหา เมอื่ เริ่มลิสต์รายชื่อ และโทรชวนคนรู้จักของพวกเขาดาวน์ไลน์ของผมหลายคน.. ชวนคนรู้จักไม่ได้เลย…ดาวน์ไลน์ของผมบางคน ขายของเก่งมาก ทำมาครึ่งปี มีรายได้จาก การขายเยอะมาก แต่หาดาวน์ไลน์ของตัวเองไม่ได้เลยซักคนสุดท้ายเมื่อมีลูกค้ามากขึ้นก็เริ่ม เหนื่อย เพราะมีแต่ “คนช่วยซื้อ” แต่ไม่มี”คนช่วยขาย” พูดง่ายๆว่า สร้างทีมงานดาวน์ไลน์ไม่ได้นั่นเอง…ต้องมีทีมงานดาวน์ไลน์เราถึงจะเรียกตัวเองว่าเป็น นักธุรกิจเครือข่ายถ้า คิดแต่จะขายของด้วยตัวเราเพียงคนเดียว ผมแนะนำให้ไปทำ Single LevelMarketing หรือที่เรียกว่า “ขายตรงชั้นเดียว” ให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลยจะดีกว่า ได้คอมมิสชั่นจากการขายเป็นกอบเป็นกำกว่า Network Marketing หรือ “ธุรกิจเครือข่าย” เป็นไหนๆ

…แต่เราทำธุรกิจเครือข่ายกันทำไมล่ะครับ…???
ถ้าไม่ใช่เพราะ ต้องการอิสรภาพทางการเงินและเวลาที่เรียกว่า”หยุดทำ แต่รายได้ไม่หยุด” ใช่หรือไม่..!แม้ว่าในสมัยนั้น ธุรกิจเครือข่ายที่ผมทำอยู่จะมีผู้ที่ประสบความสำเร็จ เป็นท้ังคุณหมอ เภสัชกร วิศวกร หรือแม้แต่นักขายประกันชีวิตหันมาเอาดีทางธุรกิจเครือข่าย พวกเขาเหล่านี้ คือ “ภาพความสำเร็จ” ที่ทำให้ผมเชื่อม่ันเป็นอย่างมากว่าธุรกิจนี้สามารถช่วยให้เราบรรลุอิสรภาพที่เราต้องการได้อย่างแท้จริง..
…แต่ จนแล้วจนรอด ผมก็ไปไม่ถึงฝันที่ตั้งเอาไว้ เพราะผมเกิดอาการ “ท้อสุดขึด”และ “ล้มเลิกไปก่อน” ….สาเหตุหลักที่ล้มเลิก ก็เพราะ ผมและดาวน์ไลน์ไม่สามารถ “ขยายเครือข่าย” ได้อย่างที่ใจเราหวังเอาไว้น่ะสิครับ
แม้ ว่าพวกเราจะมีลูกค้ามากพอสมควร แต่ลูกค้าที่แสนดีเหล่าน้ัน ก็ไม่สนใจที่จะทำธุรกิจร่วมกับเราเลย พวกเขาชอบที่จะเป็นเพียง “ผู้ซื้อ” มากกว่า เราเริ่มรู้สึกว่า.. เครือข่ายของพวกเรา.. เติบโตช้ามาก…

สรุปว่า การขยายเครือข่ายของผม ไปไม่ถึงไหนเลย ผ่านไปปีกว่า ก็ยังทำกันอยู่
ไม่ กี่คนนั่นแหละ เงินทุนก็เริ่มร่อยหรอ.. เพราะหมดไปกับการโฆษณา ซึ่งได้ผลกลับมาไม่คุ้มเอาเสียเลย..สุดท้ายพวกเราก็เริ่มท้อและเหนื่อย เนื่องจากถ้าต้องการมีรายได้มากขึ้น ก็ต้องเพิ่มจำนวนลูกค้าให้มากขึ้น และหมายความว่า เราต้องให้เวลากับการดูแลลูกค้ามากขึ้นตามไปด้วย ท้ังการเอาสินค้าไปส่งให้ลูกค้า การแวะไปเยี่ยมเยือนลูกค้า โทรติดตามผล และอื่นๆอีกสารพัด..
การให้เวลากับลูกค้ามากขึ้น ย่อมส่งผลกระทบกับงานประจำของพวกเราแต่ละคนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้..ในที่สุดดาวน์ไลน์ของผมบางคนก็เริ่มรู้สึกว่า ไม่คุ้ม และเริ่มหายหน้าไปจากทีม
…บางคนก็เริ่มไม่ค่อยรับโทรศัพท์เวลาทผมโทรไปหาซึ่งผม.. เข้าใจครับ…ช่วงเวลานั้น มันเหมือนมีสัญญาณบางอย่างที่พวกเราส่งถึงกันว่า
“เลิกเถอะเพื่อน..เหนื่อยแล้ว”และแล้วในที่สุด พวกเราก็.. แยกย้ายกันไปตามวิถีชีวิตของแต่ละคนครับ..!

การเริ่มต้นธุรกิจเครือข่ายที่ดีนั้น ไม่จำเป็นต้องเริ่มต้นกับคนรู้จักเสมอไป แต่ควรเริ่มต้นจากการ “เฟ้นหา” คนที่มีทัศนคติและความมุ่งม่ัน ในแบบเดียวกันกับเราให้เจอและไม่สำคัญว่า เรากับเขา รู้จักกันมาก่อนหรือไม่…ไม่สำคัญเลยครับ…คนที่มีจิตวิญญาณและทัศนคติแบบ เดียวกัน จะสนิทสนมกันอย่างรวดเร็วมากเพราะเราต้องการ “เพื่อนที่คิดแบบเดียวกับเราอยู่แล้วครับ
คำแนะนำแรกสุดจากผม ก็คือ”อย่ามัวเสียเวลา..จมอยู่กับรายชื่อคนรู้จัก”แต่จงค้นหา “วิธีการ” ที่จะช่วยให้คุณ “ค้นพบคนที่ใช่” ไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ใดในโลกนี้ก็ตาม การจะทำแบบนั้นได้คุณต้องรู้จักสิ่งนี้ก่อนครับ..ระบบดึงดูดอัตโนมัติ..

Make money

ไม่มีใครเปลี่ยนคุณได้ ถ้าคุณไม่เปลี่ยนตัวเอง

Posted in MLM ธุรกิจเงิน แสน | Tagged , , , , , , , | Leave a comment

passive income คือ อะไร

passive income คือ อะไร คลิปนี้คือคำตอบ

ดูคลิปนี้ดีๆ ดูแบบตั้งใจและทำความเข้าใจ คุณจะรู้วิธีที่จะทำให้คุณรวย

สนใจร่วมธุรกิจ

passive incomepassive income คืออะไร passive income คืออะไร passive income คืออะไร passive income คืออะไร

ESBI เงิน 4 ด้าน

Posted in MLM ธุรกิจเงิน แสน | Tagged , , , , , | Leave a comment

เส้นทางสู่รายได้หลักแสน ด้วยแผนธุรกิจเอมสตาร์

แผนการสร้างรายได้ ธุรกิจเอมสตาร์

แผนธุรกิจ aimstar

เส้นทางสู่รายได้หลักแสน ด้วยแผนธุรกิจเอมสตาร์ เส้นทางสู่รายได้หลักแสน ด้วยแผนธุรกิจเอมสตาร์ เส้นทางสู่รายได้หลักแสนสตาร์

Posted in MLM ธุรกิจเงิน แสน | Tagged , , , , , , , , , , , , , , , | Leave a comment

ไม่อยากเป็นลูกจ้าง อยากรวยต้องทำอย่างไร

คนจนมองหางานทำ คนรวยมองหาโอกาสสร้างเครือข่าย

ไม่อยากเป็นลูกจ้าง อยากรวยต้องทำอย่างไร
คนจนมองหางานทำ คนรวยมองหาโอกาสสร้างเครือข่าย มองหาโอกาสเป็นเจ้าของเครือข่าย
ความฝันกับความเป็นจริงที่คนส่วนใหญ่กำลังประสบพบเจออยู่
ความฝัน…
…เงินเก็บเยอะๆ
…อยากมีรถยนต์ขับ(ซื้อสด)
…อยากมีอิสระภาพทางการเงินและเวลา
…อยากมีความมั่นคง
…อยากท่องเที่ยวทั่วโลก
ความเป็นจริง…
…เงินเดือนชนเดือน
…เป็นลิงบนรถเมล์
…เป็นลูกจ้าง หรือเรียกให้ดูดีหน่อยก็พนักงานบริษัท ยากที่จะมีอิสระ
…บริษัทมั่นคง แต่…ตัวคุณไม่มั่นคง (จะโดนไล่ออกวันไหนก็ไม่รู้)
…จะเที่ยวแต่ละครั้งต้องเก็บเงินเป็นปีๆ
ความคิดความฝันในการทำธุรกิจ…
ธุรกิจอื่นๆ…
…เงินลงทุนสูง
…ทำเลต้องดี
…ความรู้ และประสบการณ์
…ความเสี่ยงสูง เพราะลงทุนสูง
…ลูกน้อง
…คิดง่าย ทำยาก
ธุรกิจเครือข่าย…
…ลงทุนต่ำ
…ทำเลไม่ต้อง
…ความรู้และประสบการณ์ไม่ต้อง
…ความเสี่ยงน้อย เพราะลงทุนแค่หลักพัน
…ลูกน้องไม่ต้องมี
…คิดง่าย ทำได้ทันที
แผนชีวิต…ที่คุณต้องคิด
ถ้าตอนนี้คุณอายุ 20 ปี อีก 10 ปี = 30 ปี คุณจะได้อะไร? จะเป็นอย่างไรจากงานประจำ?
ถ้าตอนนี้คุณอายุ 30 ปี อีก 10 ปี = 40 ปี คุณจะได้อะไร? จะเป็นอย่างไรจากงานประจำ?
ถ้าตอนนี้คุณอายุ 40 ปี อีก 10 ปี = 50 ปี คุณจะได้อะไร? จะเป็นอย่างไรจากงานประจำ?
ถ้าตอนนี้คุณอายุ 50 ปี อีก 10 ปี = 60 ปี คุณจะได้อะไร? จะเป็นอย่างไรจากงานประจำ?
6 คำถามที่คุณต้องตอบตัวเอง…
1.คุณทำงานเป็นลูกจ้าง (พนักงานประจำ) มากี่ปี?
2.คุณได้อะไรบ้างจากการทำงานเป็นลูกจ้าง (พนักงานประจำ)?
3.คุณพอใจในความเป็นอยู่ของตัวเองแล้วหรือยัง?
4.ชีวิตนี้คุณต้องการอะไรบ้าง?
5.เมื่อไหร่จะได้ในสิ่งที่คุณต้องการ? (อีกกี่ปี) ให้ดูคำถามข้อที่ 1
6.คุณจะหาจากวิธีไหน?
   – หาจากการทำงานประจำ
   – หาจากธุรกิจเครือข่าย หรือ ธุรกิจ MLM
Tel. 085-3698822
ไม่อยากเป็นลูกจ้าง อยากรวยต้องทำอย่างไร
Posted in MLM ธุรกิจเงิน แสน | Tagged , , , , , , , , , | Leave a comment

แชร์ลูกโซ่ กับธุรกิจเครือข่าย ขายตรง คืออะไร ต่างกันอย่างไร

ธุรกิจเครือข่าย เป็นหนึ่งในระบบเคลื่อนสินค้าที่เติบโตเร็วที่สุดและถูกเข้าใจผิดมากที่สุดในปัจจุบัน

ธุรกิจเครือข่ายถูกเชื่อว่าจะเป็นคลื่นลูกใหม่ในยุคปี 1980s แต่เชื่อผมเถิดว่า มันจะเติบโตได้ไกลกว่านั้นแน่ ภายในยุค 1990s สินค้าและบริการมูลค่ามากกว่า หนึ่งร้อยล้านเหรียญสหรัฐฯ ถูกเคลื่อนผ่านบริษัทธุรกิจเครือข่ายทุก ๆ ปี จงจับตามองธุรกิจเครือข่ายในช่วงปี 2000s ถึง 2100s ให้ดี

บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอข้อมูลผ่านทางรูปภาพและตัวอย่างว่า ธุรกิจเครือข่ายคืออะไร และสิ่งไหนไม่ใช่ธุรกิจเครือข่าย เรายังจะแสดงให้คุณเห็นว่า คุณจะอธิบายให้คนอื่นเข้าใจในธุรกิจเครือข่ายอย่างมีประสิทธิภาพได้อย่างไร ผมขอย้ำ “อธิบายอย่างมีประสิทธิภาพ” ได้อย่างไร

ผมขออนุญาตตอบคำถามที่เป็นหนึ่งในคำถามที่ถูกถามมากที่สุด และอาจเป็นคำถามที่เป็นพื้นฐานที่สุดของบรรดาคำถามทั้งปวง นั่นคือ “ธุรกิจเครือข่าย หรือ Multi-level Marketing หรือ MLM นั้นคืออะไร”

 

Marketing หรือ การตลาด หมายถึง การเคลื่อนสินค้าหรือบริการ จากผู้ผลิตไปถึงผู้บริโภค

Multi-Level อ้างถึง ระบบในการจ่ายค่าตอบแทนให้กับบุคคลผู้ซึ่งทำให้สินค้าหรือบริการนั้นเคลื่อนตัว

Multi หมายถึง มากกว่าหนึ่ง

Level หมายถึง ระดับหรือรุ่น

คำว่า MLM นั้นแพร่หลายมากเสียจนพวกพีระมิดหรือแชร์ลูกโซ่ที่ผิดกฎหมาย ได้พยายามทำตัวเองให้เหมือนกับธุรกิจเครือข่าย ซึ่งการกระทำดังกล่าวสร้างภาพลบอย่างร้ายกาจและไร้เหตุผลให้กับบริษัทธุรกิจเครือข่ายใหม่ๆ

มีสามวิธีหลักๆ ในการเคลื่อนสินค้าและบริการ คือ

1. Retailing หรือ การขายปลีก ผมเชื่อว่า ทุกๆ คนคุ้นเคยกับระบบนี้ดีอยู่แล้ว คุณเดินเข้าไปในร้านของชำ ร้านขายยา หรือห้างสรรพสินค้า แล้วซื้อสินค้าบางอย่างออกมา

2. Direct Sales (Single-Level Marketing) หรือ การขายตรง คือการเคลื่อนสินค้าไปสู่ผู้บริโภค ผ่านทางเทคนิคของการขาย เช่น การไปบ้านลูกค้าเพื่อนำเสนอสินค้า การโทรศัพท์ไปขายของให้กับลูกค้า การขายตรงบางครั้งถือว่าเป็นการขายที่ไม่มีพ่อค้าคนกลาง (เช่น ร้าน Retail หรือ บริษัทตัวแทนจำหน่าย) ยกตัวอย่าง (แต่ไม่เสมอไป) เช่น การขายประกัน เครื่องครัว สารานุกรม สาวขายเอว่อน  มิสทีน

3. Multi-Level Marketing  (MLM) หรือ การตลาดเครือข่าย คือสิ่งที่เราจะพูดถึงในบทความนี้ เราไม่ควรสับสนระหว่างสองอย่างข้างบน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับการขายตรง คนส่วนใหญ่มักสับสนระหว่างการตลาดเครือข่ายกับการขายตรง

ยังมีการตลาดอีกแบบหนึ่งที่เรียกว่า การสั่งทางไปรษณีย์ การทำการตลาดแบบไปรษณีย์สามารถถูกจัดอยู่ในกลุ่มของ Direct sales ได้ บางคนก็ถือว่าการตลาดทางไปรษณีย์เป็นการตลาดแบบที่ 4

แบบที่ 5 ซึ่งมักถูกเข้าใจสับสนกับ MLM ก็คือ แบบพีระมิดหรือแชร์ลูกโซ่ ดังที่กล่าวไปแล้วว่าแชร์ลูกโช่นั้นผิดกฎหมาย เหตุผลสำคัญที่ผิดกฎหมายเพราะว่ามันล้มเหลวในการเคลื่อนผลิตภัณฑ์ หรือการบริการไปสู่ผู้บริโภคได้ ถ้าผลิตภัณฑ์ไม่เคลื่อนไหว เราจะเรียกมันว่า “การตลาด” ได้อย่างไร แชร์ลูกโซ่สามารถใช้คำว่า “เครือข่าย” ได้ แต่ไม่สามารถใช้คำว่า “การตลาด” ได้

ข้อขัดแย้งส่วนใหญ่ในใจคนมากมาย ที่ทำให้เขาไม่เข้าร่วมทำธุรกิจ MLM คือ เขาไม่รู้ความแตกต่าง ระหว่าง MLM กับ การขายตรง ไม่ แปลกใจเลยที่คนส่วนมากสับสนเพราะบริษัท MLM ที่มีชื่อเสียงส่วนใหญ่นั้นอยู่ในสมาคมขายตรง และในบางครั้งคุณอาจมองการทำธุรกิจเครือข่ายเหมือนการการขายเดินขายของแบบ เคาะประตู เพราะว่าคุณได้รู้จักกับกับธุรกิจเครือข่ายครั้งแรก เมื่อผู้จำหน่ายเคาะประตูบ้านคุณเพื่อพยายามขายของบางอย่างให้กับคุณ ซึ่งแท้จริงแล้ว มีลักษณะบางอย่างที่แยก MLM ออกจากการขายตรง นั่นคือ หากคุณอยู่ในธุรกิจ MLM คุณอยู่ในธุรกิจเพื่อตัวของคุณเอง แต่ไม่ใช่โดยตัวของคุณเอง

การเข้าร่วมธุรกิจคือคุณจะซื้อสินค้าในราคาขายส่ง (คุณควรใช้ผลิตภัณฑ์ด้วยตัวเองด้วย) หลายคนเข้าร่วมธุรกิจเพราะเหตุผลข้อนี้ หลังจากนั้นคุณก็จะเริ่ม “เอาจริง” เมื่อคุณซื้อสินค้าในราคา“ขายส่ง” ถ้าคุณต้องการ คุณสามารถ“ขายปลีก” และคุณจะได้ “ผลกำไร” คนจำนวนมากเข้าใจผิดว่า คุณ “ต้อง” ขายปลีก คุณจึงประสบความสำเร็จ บางบริษัทถึงกับกำหนดยอดขายให้สมาชิกทำยอดตามเป้าเพื่อเขาจะได้รับผลตอบแทน คุณสามารถขายถ้าคุณต้องการ หรือ ถ้าคุณจำเป็นต้องขายเพื่อให้ได้รับผลตอบแทนก็ขายไปเถิดครับ แต่หากคุณต้องการสร้างรายได้มหาศาลแล้วหละก็ ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ที่แท้จริงนั้น มาจากการสร้างเครือข่าย

ประเด็นสำคัญ: ให้การขายเป็นสิ่งที่ตามมาจากการสร้างองค์กรโดยธรรมชาติ คนส่วนใหญ่ล้มเหลวเพราะเขาทำสิ่งที่กลับกัน คือ เขาพยายามสร้างองค์กรโดยการขาย

คำว่า “ขาย” เป็นความคิดทางลบในจิตใจคนถึง 95% ในธุรกิจเครือข่ายคุณไม่จำเป็นต้องขาย” ตามความเข้าใจของโลก แต่อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์ต้องเคลื่อนไหว มิฉะนั้นจะไม่มีใครได้รับเงิน ดอน เฟียล่า ได้นิยามคำว่า ขาย ไว้ว่า “การโทรศัพท์ไปหาคนแปลกหน้า เพื่อขายของบางอย่าง ที่เขาอาจไม่จำเป็นต้องใช้ หรือ ไม่ต้องการ”

ขอยืนยันอีกครั้ง ผลิตภัณฑ์ต้องเคลื่อนไหว มิฉะนั้นจะไม่มีใครได้รับเงิน

MLM สามารถเรียกได้อีกอย่างหนึ่งว่า Network Marketing เมื่อคุณสร้างองค์กร แท้จริงแล้วคุณกำลังสร้างเครือข่ายที่ใช้ในการกระจายสินค้าของคุณเอง การขายนั้นยังคงเป็นรากฐานของธุรกิจเครือข่าย เพียงแต่การขายในธุรกิจเครือข่ายนั้นมาจากการที่ผู้จำหน่าย “แบ่งปัน” ให้กับเพื่อนและญาติพี่น้องของเขา ไม่ใช่ให้กับคนแปลกหน้า การสร้างธุรกิจขนาดใหญ่ให้ประสบความสำเร็จคุณต้อง “สร้างความสมดุล” คุณต้องอุปถัมภ์ และสอน MLM ให้กับคนอื่น และในกระบวนการนี้เอง คุณจะสามารถสร้างลูกค้าได้ซึ่งก็คือเพื่อนๆ หรือญาติพี่น้องของคุณ

อย่าพยายามอุปถัมภ์คนทั้งโลกด้วยตัวของคุณเอง จงจำไว้ว่า Network marketing คือการสร้างองค์กรผู้จำหน่ายจำนวนมาก แต่ละคนขายคนละเล็กคนละน้อย ซึ่งดีกว่าการใช้คนจำนวนน้อยๆ ขายของปริมาณมาก ๆ

บริษัทธุรกิจเครือข่ายส่วนใหญ่ไม่ต้องเสียเงินปริมาณมหาศาลไปกับการโฆษณา เพราะ สุดยอดแห่งการโฆษณาก็คือการบอกแบบปากต่อปากของสมาชิก ดังนั้น บริษัทเครือข่ายจึงมีเงินมาใช้ในการพัฒนาสินค้าได้มากกว่าบริษัททั่วๆ ไป ดังนั้น คุณภาพสินค้าจึงมักดีกว่าสินค้าคู่แข่งในกลุ่มเดียวกันที่พบตามร้านค้าปลีก คุณ จึงเพียงแค่แบ่งปันสินค้าที่มีคุณภาพสูงกว่าสินค้ายี่ห้ออื่นๆ ในหมวดเดียวกัน ให้เขาเปลี่ยนมาใช้ยี่ห้อใหม่ ซึ่งคุณได้ทดสอบด้วยตัวคุณเองแล้วว่า มันดีกว่า

คุณคงเห็นแล้วว่านี่ไม่ใช่การเดินไปเคาะ ประตูตามบ้านเพื่อขายสินค้าให้กับคนแปลกหน้า ธุรกิจเครือข่ายที่ผมรู้จักสอนว่า การที่คุณแบ่งปันคุณภาพสินค้าและบริการให้กับเพื่อนของคุณ ทั้งหมดนี้แหละที่ “การขาย” เข้ามาเกี่ยวข้อง จริงๆควรใช้คำว่า “การแบ่งปัน” มากกว่า “การขาย” เพราะมันเป็นเช่นนั้นจริงๆ

หากคุณทำงานให้กับบริษัทขายตรง และคุณตัดสินใจที่จะลาออกเพราะคุณต้องย้ายไปอาศัยที่ท้องถิ่นอื่น คุณอาจต้องเริ่มทำงานทั้งหมดใหม่อีกครั้ง แต่หากคุณอยู่ในบริษัท MLM คุณสามารถย้ายไปในท้องที่ใดก็ได้ และเริ่มอุปถัมภ์ผู้คนใหม่โดยไม่สูญเสียยอดขายจากองค์กรที่คุณได้สร้างไว้ แล้วในท้องที่เดิม การทำธุรกิจเครือข่ายคุณสามารถสร้างรายได้ได้มากมายจากการสร้างองค์กร ไม่ใช่แค่การขาย ข้าพเจ้ายังขอยืนยังอีกครั้ง คุณสามารถมีความเป็นอยู่ที่ดีได้จากการขายของ แต่คุณสามารถสร้าง “ความมั่งคั่งอย่างถาวร” ได้ด้วยการสร้างองค์กรเท่านั้น

ผู้คนจำนวนมากเข้าสู่ธุรกิจเครือข่าย เพียงแค่ต้องการมีรายได้เพิ่มเดือนละ 5000 , 10000 บาท หรือ 20000 บาท ต่อเดือนและทันใดนั้นเขาต้องการที่จะจริงจังและเขาสามารถทำได้ถึงเดือนละ แสน หรือ 3 แสนได้ หรือมากกว่านั้น เขาเหล่านี้ไม่ได้หาเงินจำนวนมากจากการขายของ เขาทำได้จากการสร้างองค์กร

นั่นคือวัตถุประสงค์ของเวปไซต์แห่งนี้ เราจะให้ความรู้คุณให้สามารถสร้างองค์กรได้และทำได้อย่างรวดเร็วด้วยโดยการ สอนให้คุณสร้างทรรศนะคติที่ถูกต้องเกี่ยวกับธุรกิจเครือข่ายให้กับผู้มุ่ง หวัง  หากผู้มุ่งหวังของท่านเข้าใจว่าธุรกิจเครือข่ายนั้นผิดกฎหมายเสียแล้ว คุณจะมีปัญหาในการอุปถัมภ์เขาอย่างแน่นอน

คุณต้องชี้แจงให้เขาเห็นถึงข้อเท็จจริง เพื่อขจัดทรรศนะคติหรือความเข้าใจผิดที่ว่า “ธุรกิจเครือข่ายนั้นเหมือนพีระมิด” ขอให้ทำความเข้าใจตัวอย่างข้างล่างและรูปนี้เพราะคุณสามารถนำมันไปใช้อธิบาย กับผู้มุ่งหวังได้

พีระมิดหรือแชร์ลูกโซ่นั้นสร้างจากยอดลงมาด้านล่าง ดังนั้น ผู้ที่เข้ามาสู่ธุรกิจเป็นกลุ่มแรกเท่านั้นที่สามารถอยู่ด้านบนของพีระมิด แต่ ในรูปสามเหลี่ยมในธุรกิจเครือข่าย ทุกๆ คนเริ่มต้นจากด้านล่างและมีโอกาสเท่า ๆ กันที่จะสร้างองค์กรขนาดใหญ่ของตัวเอง ทุกๆ คนสามารถสร้างองค์กรให้ใหญ่กว่าองค์กรของผู้แนะนำของเขาได้หลายเท่าถ้าต้องการ

ข้อแตกต่างอีกอย่างของ MLM กับการขายตรงนั้นคือการ “ช่วย เหลือ” (Sponsor) ผู้จำหน่ายคนอื่นๆ บางบริษัทอาจใช้คำว่า การหาสมาชิกใหม่ อย่างไรก็ตาม การ Sponsor กับการหาสมาชิกนั้นต่างกันอย่างแน่นอน คุณ Sponsor คนบางคน แล้ว “สอน” ให้เขาทำสิ่งที่คุณทำอยู่ เพื่อให้เขาสร้างธุรกิจของเขาเอง การ Sponsor คนบางคน กับการทำให้คนบางคนเซ็นใบสมัครนั้นต่างกันมาก เมื่อ คุณ “Sponsor” ใครบางคน คุณกำลังให้คำมั่นสัญญาที่จะช่วยเขาจนกว่าเขาจะประสบความสำเร็จ หากคุณไม่ประสงค์ที่จะให้คำมั่น คุณกำลังทำร้ายเขาถ้าคุณทำให้เขาเซ็นใบสมัคร

มันเป็น “ความรับผิดชอบ” ของ ผู้แนะนำที่จะสอนผู้ที่เขานำเข้ามาในธุรกิจให้รู้ถึงทุกสิ่งทุกอย่างใน ธุรกิจ เช่น การสั่งสินค้า การจดบันทึกความคืบหน้าในธุรกิจ การเริ่มต้น วิธีในการฝึกอบรม เพราะการช่วยเหลือเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ธุรกิจเครือข่ายเติบโต เมื่อองค์กรของคุณโต คุณก็จะเป็นนักธุรกิจอิสระที่ประสบความสำเร็จ ในที่สุดคุณจะกลายเป็นเจ้านายของตัวเอง!

ดังที่ผมกล่าวไปในตอนต้นว่าภายในยุค 1990s MLM หรือธุรกิจเครือข่าย ได้ทำเงินไปมากกว่า หนึ่งร้อยล้านเหรียญ นี่เป็นธุรกิจที่ใหญ่มาก! แต่คนส่วนใหญ่กลับไม่รู้ ธุรกิจเครือข่ายนั้นอยู่รอบๆ ตัวเรามามากกว่า 40 ปีแล้ว บางบริษัทที่เปิดทำการมากว่า 20 ปี กำลังทำเงินกว่าร้อยล้านเหรียญต่อปี ผม รู้จักบริษัทหนึ่งที่ทำรายได้มากกว่าสองล้านเหรียญในปีแรก ในปีที่สองเขาทำได้ถึงสิบห้าล้านเหรียญ ในปีที่สามเขาคาดหวังรายได้ 75 ล้านและ หนึ่งพันล้านเหรียญภายในปีที่ 5! หลักการในเวปไซน์แห่งนี้จะทำให้คุณเห็นว่าเป้าหมายของเขาจะเป็นจริงได้อย่างไร และสิ่งนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุก ๆ คน

 
ธุรกิจเครือข่าย (MLM) ที่ดี การเลือกที่ครบ 7 องค์ประกอบของโอกาส

แชร์ลูกโซ่ กับธุรกิจเครือข่าย ขายตรง คืออะไร ต่างกันอย่างไร แชร์ลูกโซ่ กับธุรกิจเครือข่าย ขายตรง คืออะไร ต่างกันอย่างไร

Posted in MLM ธุรกิจเงิน แสน | Tagged , , , | Leave a comment

MLM คืออะไร ธุรกิจ MLM หรือ MLM คือธุรกิจการตลาดแบบเครือข่าย

mlm คืออะไร ธุรกิจ mlm หรือ mlm คือธุรกิจการตลาดแบบเครือข่าย
สวัสดีครับ ทุกท่าน วันนี้ผมก็จะมาบอกเล่าถึงความหมายของ การตลาดเครือข่าย หรือ ที่ เรียก ย่อๆ กันว่า MLM หรือบางที ก็ จะเรียกกันว่า การตลาดแบบหลายระดับชั้น นะครับ แล้วภาษาอังกฤษ ก็อดที่จะเอ่ยถึงไม่ได้ นั้นก็คือ “multi-level marketing” ต้องมีขีดคั้น ระหว่าง multi กับคำว่า level ด้วยนะครับ ก็ไม่เข้าใจว่า ทำไมต้องมีขีดด้วย ใครเก่งภาษาอังกฤษ ถ้าว่างๆก็มาอธิบายให้ด้วยนะครับ ล้อเล่นนะครับ เอาละนอกเรื่องมาเยอะแล้วครับ มาดูความหมายกันดีกว่า

การตลาดแบบเครือข่าย หรือ ที่ เรียก ย่อๆ กันว่า MLM นั้นมีความหมายแบบสรุปย่อดังนี้ครับ คือ ระบบทางการตลาดแบบหลายระดับชั้น เป็นช่องทางการตลาดอีกหนึ่งช่องทางหนึ่งของผู้ประกอบการทางธุรกิจ รวมทั้งผู้ผลิตสินค้า ที่จะกระจายสินค้า หรือ บริการของตนสู่ผู้บริโภคโดยตรง โดยไม่จำเป็นต้องผ่านตัวกลางครับ

การตลาดแบบเครือข่าย หรือ ที่ เรียก ย่อๆ กันว่า MLM จะใช้หลักการกระจายสินค้า โดยตัวของผู้บริโภคสินค้าโดยตรงเป็นสำคัญครับ เป็นผู้กระจายสินค้า หรือ บริการให้กับทางบริษัทที่ต้อคงการกระจายสินค้านั้นเอง ในลักษณะของการเป็นตัวแทนอิสระ หรือผู้จำหน่ายอิสระ หรือผู้บริโภคอิสระ แล้วแต่จะเรียกชื่อกันไปนะครับ โดยผู้บริโภคท่านนั้นๆ จะต้องเข้าเป็นสมาชิกของบริษัทนั้นๆ เพื่อเข้าร่วมรับสิทธิในผลประโยชน์ทางการตลาดต่างๆ ซึ่งทางบริษัทขายตรงนั้นกำหนดให้ เพื่อเป็นค่าตอบแทนในการกระจายสินค้า หรือ บริการสู่ผู้บริโภคท่านอื่นๆ ต่อไป ร่วมทั้งยังได้รับผลประโยชน์ในการแนะนำหรือการเปิดโอกาส ผู้บริโภครายใหม่ๆ เข้ามาเป็นสมาชิกร่วมในทีมงานของตนอีกด้วย เอาละครับวันนี้เราก็ได้รู้แล้วนะครับว่า การตลาดเครื่อข่าย หรือ ที่ เรียก ย่อๆ กันว่า MLM มันมีความหมายว่าอย่างไร ผมได้นำมาสรุปมาให้แล้วนะครับ

     คราวหน้า เราจะมาดูกันสิว่า การตลาดเครือข่าย การตลาดขายตรง การตลาดขายปลีก ธุรกิจลูกโซ่ แตกต่างกันอย่างไรเพราะคนส่วนใหญ่จะเข้าใจผิดและนำไปสรุปเหมารวมกันบ่อยครับ ไว้เจอกันนะขอรับกระผม

สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://mlmsecreter.blogspot.com

Posted in MLM ธุรกิจเงิน แสน | Tagged , , , , , , | Leave a comment

MLM คืออะไร และเป็นอย่างไร

MLM คืออะไร ? และเป็นอย่างไร

MLM (Multilevel Marketing) คือการขยายเครือข่ายผู้บริโภค เพื่อมุ่งเน้นการคืนกำไรสู่ผู้บริโภค ผ่านแผนการตลาด ที่วิเคราะห์โดยนักการตลาดมืออาชีพ ให้เราแปรรูปจากการเป็นผู้บริโภคธรรมดา มาเป็นได้ถึง 3 สถานภาพ โดยเป็นทั้งลูกค้า ผู้ขาย และ ผู้บริหาร ในคนเดียวกัน จึงไม่ใช่เรื่องประหลาดอะไร ที่ ผู้ทำ MLM ไม่ได้ขายสินค้าเอง แต่มีรายได้เป็นแสน เป็นล้านบาท เพราะเขาได้ทำการบริหารองค์กร เขาจึงมีรายได้จากการบริหารจำนวนมากต่อเดือน
MLM เป็นระบบการตลาดที่ให้โอกาสในการประสบความสำเร็จแก่ทุกคนเท่าเทียมกัน โดยไม่สำคัญว่าจะเป็นใคร และใครเข้ามาก่อนหรือใครเข้ามาที่หลัง เป็นการเปิดโอกาสให้คุณสามารถทำธุรกิจได้โดยไม่ต้องใช้เงินลงทุนมหาศาล ลองศึกษาแผนการตลาดของเราให้ดีเถอะครับ จะได้ไม่ต้องเสียโอกาสดี ๆ ถ้าบริษัทดี แผนการตลาดดีตรงใจคุณ ทีนี้ก็เหลืออยู่แต่ว่าตัวคุณเองนั่นแหละพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงหรือยัง?

MLM ทำงานอย่างไร ?

การทำงานในระบบ MLM ก็คือ การสร้างเครือข่ายและการวางแผนที่ดี เป็นการผสมการขายตรงและการสร้างเครือข่ายขึ้นมาต่อยอด ซึ่งเราต้องหาผู้ร่วมอุดมการณ์มาต่อยอดและสานต่องานของเรา และเขาก็ต้องหาผู้ร่วมอุดมการณ์มาต่อยอด ต่อๆกันไป โดยที่คนเป็น Upline จะได้ค่าสอนงานหรือค่าลิกขสิทธ์เป็นรายได้ จากการที่ Downline ของเขาทำงานได้
การทำงานของ MLM ในอุดมคติ คือการที่เราไม่ต้องวิ่งหา Downline หรือลูกค้า เพื่อสร้างเครือข่าย และไม่ต้องโทรศัพท์หรือเรียกร้องคนที่ไม่สนใจมาร่วมงานหรือซื้อสินค้า ซึ่งมันกำลังจะเป็นไปได้ในเร็ววันนี้!

ทำไมคนส่วนมากถึงเกลียด MLM?

มีหลายเหตุผลที่ทำให้คนไม่ชอบ MLM
ประสบความล้มเหลวจากการลงทุนในธุรกิจเครือข่าย
– การโดนหลอกให้ไปลงทุนโดยที่ยังไม่ทราบข้อเท็จจริง
– การโดนสอนงานในวิธีผิดๆสืบต่อกันมา
ต้องปฎิเสธสิ่งที่ไม่ต้องการนับร้อยนับพันครั้งจากการโดนตื้อ
– การโดนชวนไปร่วมธุรกิจ
– การโดนยัดเยียดสินค้า

ความมั่นคงของงาน MLM ละ?

ความมั่นคงของ MLM ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการลงทุนด้วยเงินจำนวนมาก แต่ขึ้นอยู่กับ
การวางแผนของคุณ
– การตั้งเป้าหมาย
– การขจัดปัญหาและอุปสรรค์
ไม่มีใครมาไล่คุณออกได้ ยกเว้นคุณทำผิดกฎหมายหรือกฎของบริษัทที่คุณเป็นตัวแทน
– ถ้าท่านทำงานประจำ แล้วบริษัทต้องการลดตำแหน่งลง แน่นอนท่านจะไม่มีงานทำ
เป็นมรดกให้แก่ลูกหลานหรือภรรยาได้หากท่านถึงแก่กรรม
– ถ้าท่านทำงานประจำ แล้วถึงแก่ชีวิต แน่นอนว่าครอบครัวท่านจะลำบาก

รายได้ของการทำ MLM ละ?

รายได้ของ MLM เหมือนกับบริษัททั่วไปคือขึ้นอยู่กับ แผนงาน การบริหารองค์กร และการตลาด
• ขึ้นอยู่กับสินค้าที่คุณจัดจำหน่าย
• ขึ้นอยู่กับผลตอบแทนที่บริษัทผู้ผลิตเป็นผู้กำหนดมาให้
• ขึ้นอยู่กับคุณเข้าใจในธุรกิจเครือข่ายมากขนาดไหน

ทำไมถึงเห็นคนทำ MLM แล้วล้มเหลวกันมากมาย?

เหตุที่ทำให้คนล้มเหลวไม่ใช่สินค้า บริษัท หรือระบบ MLM แต่มันคือ
ระบบการสอนที่สอนกันมาที่ผิดๆ
ขาดความรอบคอบในการลงทุน
– ลงเงินซื้อสินค้าเพื่ออัพเกรดตำแหน่ง โดยไม่รู้ว่าต้องทำอะไรต่อ?
– จัดการบริหารเงินไม่เป็น รู้แค่ว่าจ่าย แต่ไม่รู้ว่าจะเอาเงินคืนมาจากไหน?
ไม่รู้ว่าต้องทำอะไร
– เข้าไปนั่งฟังเป้าหมายในชีวิตและความฝัน แต่ไม่รู้ว่าต้องทำงาน
– โดนกดดันให้ซื้อตำแหน่งจาก Upline
– รู้แค่คำว่า “คุณต้องทำได้” แต่ไม่รู้ว่าต้องทำอะไร?

ธุรกิจ MLM นี้จะอิ่มตัวไหม?

ตราบใดที่ประชากรโลกยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ MLM ไม่มีวันอิ่มตัวซ้ำยังจะเจริญมากยิ่งขึ้นอีก
• ยากที่จะอิ่มตัวในเรื่องตำแหน่ง
เทียบกับงานประจำที่มีตำแหน่งว่างเพียง 1 – 2 ตำแหน่งแล้ว
– เทียบกับงานฟรีแลนซ์ที่ต้องแย่งประมูล
• ยากที่จะอิ่มตัวในเรื่องลูกค้า
– ยังมีคนอีกมากที่ยังไม่รู้จัก เพราะการเสนอสินค้าเป็นแบบปิด
– ยังมีประชากรเพิ่มขึ้นตลอด
และแนวโน้มการเจริญเติบโตทางเศษฐกิจเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

MLM คืออะไร ? และเป็นอย่างไร MLM ทำงานอย่างไร ความมั่นคงของงาน MLM รายได้ของการทำ MLM

เป็นมรดกให้แก่ลูกหลานหรือภรรยาได้หากท่านถึงแก่กรรม

Posted in MLM ธุรกิจเงิน แสน | Tagged , , , , , , , | Leave a comment